วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2553

การจัดองค์ประกอบภาพ

for everyone เป็นกระบวนการถ่ายภาพหรือบันทึกภาพให้เสนอเรื่องราวได้น่าสนใจ มีศิลปะ มองดูสวยงาม ช่างภาพอาจจะสร้างสรรค์ (Creative) งานขึ้นมาจากความรู้และประสบการณ์ของตนเอง หรืออาจจะถ่ายทำตามบท (Script) ที่กำหนดไว้
กระบวนการประกอบภาพ อาศัยหลักการคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง หรือโทรทัศน์นั่นคือ จะมีการจัดสิ่งที่ถ่าย การตั้งกล้องถ่ายทำ การล้างอัดขยายในกรณีที่เป็นภาพนิ่ง และกระบวนการตัดต่อภาพ ตัดต่อเสียง จนถึงขั้นตอนการทำสำเนาภาพ (Duplicate)

การจัดสิ่งที่ถ่าย

- ผู้ถ่ายภาพหรือช่างภาพต้องสำรวจดูสิ่งที่ถ่าย (Subject) ในเรื่องการแต่งกาย ท่าทาง สิ่งแวดล้อม พื้นหน้า (Foreground) พื้นหลัง (Background) ความเหมาะสมกลมกลืนเป็นธรรมชาติ
- พิจารณาแสงสว่าง (Lighting)
- พิจารณาทำเล สถานที่ถ่ายทำ (Location)
- พิจารณาสภาพแวดล้อมและบรรยากาศโดยทั่วไป
การตั้งกล้องถ่าย
เป็นขั้นตอนที่ช่างภาพ จะต้องมองผ่านช่องมองภาพ (Viewer) หรือกรอบมองภาพ เพื่อสำรวจดูว่าการจัดสิ่งที่ถ่ายนั้น เป็นที่พอใจหรือไม่ ปรับปรุง หรือจัดทำให้พอใจทุกประการ แล้วลองตั้งกล้องถ่าย (ตั้งกล้องให้กรอบภาพได้ฉากหรือขนานกับเสาไฟฟ้า ยกเว้นกรณีที่ถ่ายทำภาพแบบโลดโผน) จากนั้นยังคำนึงถึงหลักการต่าง ๆ อีกหลายประการ เช่น
1. จุดมองภาพ (Point of view)
- ศูนย์สนใจ (Center of interest)
- เส้น (Line)
- พื้นภาพหรือมวล (Mass)
- การตัดกัน (Contrast)
การมองภาพ มีเกณฑ์ในการพิจารณา คือ
1.1 ทิศทางกล้อง (Camera direction)
- ตรง
- ซ้าย
- ขวา
1.2 ระดับของกล้อง หรือมุมกล้อง (Camera angle)
- ระดับตา (Eye Level)
- ระดับสูง (High Level)
- ระดับต่ำ (Low Level)
1.3 ระยะห่างของกล้อง (Camera distance)
- Medium shot : MS (ระยะ 3-4 เมตร)
- Long shot : LS (ระยะเกิน 4 เมตร ออกไป)
- Close-up shot : CU (ระยะใกล้กว่า 3 เมตร เข้ามา)

2. รูปแบบของภาพ (Format)
- Vertical format
- Horizontal format
- Square format
ทั้งนี้อยู่ที่ช่างภาพจะใช้กล้อง 35 มม. หรือกล้องที่ใช้ฟิล์ม6 x 6 ซม. ซึ่งถ้าเป็นภาพนิ่งธรรมดายังสามารถจะตัดตอน (Crop) ใหม่ได้ เมื่อจะทำการอัดขยายภาพ

3. ศูนย์สนใจของภาพ (Center of interest)
3.1 ประกอบภาพให้มองเห็นสิ่งที่ถ่ายเด่นที่สุด
- ให้มองเห็นโตที่สุด
- ให้อยู่ส่วนกลางของกรอบภาพ
- ให้มีสีตัดกัน เด่นจากสภาพแวดล้อม
- ให้ชัดอยู่จุดเดียว
3.2 เสนอเรื่องราวเพียงเรื่องเดียว
3.3 ให้ส่วนประกอบกลมกลืนกับสิ่งที่ถ่าย
3.4 ประกอบภาพให้ได้สัดส่วนมีดุลภาค

4. มีคุณค่าทางศิลป์
- อาศัยหลักการทางศิลปะ
- ให้สีพื้นลดหลั่นกันในภาพ (Mass)
- ให้มีเส้นแสดงความหมาย

เส้น (Line)
ก. เส้นตรง
- เส้นตั้ง
- เส้นนอน
- เส้นเฉียงหรือเส้นทะแยง
- สองเส้นขนานกัน
- สองเส้นตัดกัน
ข. เส้นโค้ง
ค. เส้นคดเคี้ยว
เส้นจะแสดงอาการอ่อนช้อย หรือแสดงถึงการเคลื่อนไหวของภาพได้
นอกจากนั้นอาจประกอบภาพให้มีคุณค่าทางศิลป์น่าสนใจยิ่งขึ้น ทำได้อีกหลายรูปแบบ เช่น
- แบบกลุ่มวัตถุอย่างเดียวกัน (Repetition)
- แบบลายละเอียดละออ (Texture)
- แบบเปรียบเทียบ (Comparision)
- แบบแสดงบรรยากาศ (Atmosphere)
- แบบแสดงความลึก (Perspective)
- แบบภาพสะท้อนและภาพเงาดำ (Reflection and silhouette)
- แบบลวดลาย (Pattern)
- แบบเป็นกรอบ (Frame)
- ถ่ายจากมุมแปลก (Angle shot)

กฎสามส่วน (Rule of thirds)

การจัดวางตำแหน่งให้เหมาะสมเพื่อสร้างจุดสนใจในภาพมีหลักเกณฑ์ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันอีกวิธีหนึ่งก็คือ การใช้กฎสามส่วน รูปภาพไม่ว่าจะเป็นแนวตั้ง หรือแนวนอน หากเราแบ่งกรอบออกเป็น 3 ส่วน โดยลากเส้นแบ่งกรอบภาพ จะมีจุดตัดเกิดขึ้น 4 จุด จุดนี้จะเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับจัดวางวัตถุ (Subject) ที่ต้องการเน้นให้เด่น
การแบ่งกรอบออกเป็นส่วน ๆ นี้ ยังสามารถจัดวางเส้นขอบฟ้าของภาพวิวทิวทัศน์ได้อีกด้วย นิยมแบ่งให้เป็น 1 : 3 หรือ 3 : 1 ซึ่งเราจะไม่นิยมจัดแบ่งเป็น 1 : 1



การล้างและอัดขยายภาพ

เป็นกระบวนการที่ช่างภาพจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคต่าง ๆ ในห้องมืด (Dark room) อาทิ น้ำยาล้างฟิล์ม น้ำยาล้างกระดาษ น้ำยาคงสภาพ ความพอดีของฟิล์ม กระดาษอัดรูปลักษณะต่าง ๆ ตลอดจนข้อควรปฏิบัติในห้องมืด
ในการล้างและอัดขยายภาพ (การจัดองค์ประกอบก็มีความสำคัญมาก ช่างภาพจะต้องคำนึงถึงการทำภาพให้มีความน่าสนใจ เลือกตัดตอน (Crop) ภาพให้มีความเด่น นำเสนอเรื่องราวได้ตรงจุดมุ่งหมาย

การลำดับภาพ

การลำดับภาพเป็นกระบวนการที่มีความละเอียดอ่อนไม่ด้วยไปจากการผสมเสียง ผล
งานที่นำเสนอจะมีสีสัน มีความต่อเนื่องสัมพันธ์กันแค่ไหนขึ้อยู่กับการลำดับภาพนั่นเอง หลังจากที่เราผสมเสียง (Mix) โดยการนำเสียงที่มีทั้งหมดในเรื่องราวที่จะนำเสนอ อาจจะเป็นเสียงบรรยาย เสียงสนทนา เพลงประกอบ เสียงประกอบ ฯลฯ บรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ และบันทึกลงในม้วนวีดีโอแล้ว เราก็จะตัดต่อภาพที่เตรียมไว้ลงในม้วนวีดีโอ ขั้นตอนนี้บางทีก็เรียกเป็นการตัดต่อ (Edit)
การตัดต่อภาพ ผู้ตัดต่อ (Editor) จะมีหลักการและทฤษฎีมาใช้ทั้งด้านจิตวิทยา การรับรู้ การสื่อสาร ความละมุนละไมทางศิลปะ นอกจากนี้ยังจะต้องเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ดี การคาดคะเนทีดี เพื่อจะนำเสนอได้ว่า อะไรเกิดขึ้น และต่อไปจะเกิดอะไร หรือ ควรจะมีเหตุการณ์อะไรบ้าง ลำดับต่อเนื่องต้องนุ่มนวล ไม่ทำให้งานออกมาสดุดความรู้สึกของผู้ชมได้



ตัวอย่างการจัดองค์ประกอบภาพ

1. Portrait





2. Silhouette



3. Landscape


4. Perspective


5. Close up


6. Repetition


7. Out door


8. Frame


9. View









ที่มา

คณะผู้จัดทำ
รศ.ถาวร สายสืบ ผู้เชี่ยวชาญเนื้อหา
นายสนาม เอกวิลัย เทคนิคภาพวีดิโอ
นายวิวัฒน์ มีสุวรรณ์ ออกแบบกราฟิก
นายสิงห์ดุล สมพมิตร เสียง
นายนพศักดิ์ สว่างรุ่ง เสียง
นายวรพงศ์ จาดยางโทน ดูแลระบบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น